หลังจากที่ดองเขียนรีวิวหนังไปหลายวีค ก็เลยตั้งใจเคลียร์ให้หมด วันนี้ก็เลยจะมารีวิวภาพยตร์ที่ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่ดูในโรงปี 2016 นี้ (ไม่นับ Daddy's Home เพราะจริงๆ เข้าโรงตั้งแต่สิ้นปีก่อนแล้ว) ซึ่งก็คือภาพยนตร์เรื่อง The 5th Wave อุบัติการณ์ล้างโลก เป็นภาพยนตร์ Sci-fi ชุดภาคแรกจากไตรภาคที่สร้างจากนวนิยายขายดี บอกตรงๆ ว่าตอนแรกไม่ทราบเลยว่าเรื่องนี้สร้างจากนิยายจนได้หาข้อมูลเพิ่มเติทหลังจากดู เลยรู้ ฮ่าๆ ขอรีวิวแบบไม่เปรียบเทียบกับนิยายละกัน เพราะไม่เคยอ่าน เดี๋ยวไปอ่านเรื่องย่อของหนังก่อนที่จะไปอ่านรีวิวของตัวหนังกันเลยดีกว่า
เรื่องย่อ The 5th Wave
เรื่องราวเล่าถึงการรุกรานของสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ถูกเรียกว่า "ผู้มาเยือน" หวังจะเข้ามายึดครองโลกของเรา โดยการกำจัดมนุษย์ไปทีละนิดๆ ขั้นตอนการกำจัดมนุษย์ที่แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่ 1st Wave "Darkness" เริ่มจากการตัดพลังงานทุกรูปแบบทั่วทั้งโลกก่อนทำให้มนุษย์ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตติดต่อสื่อสารกันได้ รวมถึงพาหนะอย่างรถและเครื่องบินก็ไม่สามารถทำงานได้ด้วยเช่นกัน 2nd Wave "Destruction" กวาดล้างเหล่ามนุษย์จำนวนมากโดยการใช้ภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำจากแม่น้ำ หรือมหาสมุทร คร่าผู้คนไปหลายล้านชีวิต 3rd Wave "Infection" ลดจำนวนมนุษย์ที่เหลือรอดด้วยไวรัส ที่พัฒนาจากไข้หวัด 4th Wave "Invasion" ผู้มาเยือนแฝงกายปะปนอยู่ท่ามกลางมนุษย์และทยอยฆ่ามนุษย์ที่เหลือรอด 5th Wave ขั้นตอนสุดท้ายในการกำจัดเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยังคงเป็นความลับอยู่ ตัวหนังดำเนินเรื่องของ Cassie Sullivan (รับบทโดย Chloë Grace Moretz) สาวน้อยที่ต้องเอาชีวิตรอดจากการกลาดล้างของผู้มาเยือน และพยายามตามหาตัวน้องชายของเธอที่คลาดกันโดยลำพัง เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องติดตามกันเอาเองในโรงภาพยนตร์
รีวิวและวิจารณ์ The 5th Wave
หลังจากที่ดูก็รู้สึกช็อคเบาๆ แบบว่าผิดคาดสุดๆ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงเป็นแบบผม จากทั้งตัวอย่างหนัง เราก็คิดว่าคงจะเป็นหนังแนว Sci-fi มนุษย์ต่างดาวบุกโลก ไล่ฆ่ามนุษย์ บลาๆ แต่กลับได้ดูหนังรัก วัยรุ่นใสๆ ประหนึ่งดูหนังเรื่องแวมไพร์ Twilight อยู่ยังไงยังงั้น ตัวหนังไม่ได้แย่อะไรมากนะสำหรับผม เพราะผมก็ชอบดูหนังแนวนี้อยู่ แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ที่มาดูก็คงคาดหวังกับหนังแนวนี้ว่าต้องมันส์ๆ ต้องบู้ล้างผลาญแน่ๆ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหนังรักหวานๆ แทน ซึ่งผมเองก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลเลยว่าดัดแปลงมาจากนวนิยาย เพราะจุดประสงค์แรกที่ดูเลยเพราะ Chloë ล้วนๆ
ทางด้านนักแสดงจัดว่าดี Chloë Grace Moretz เล่นใหญ่มาก บทเด่น หนังเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเธอคนเดียว แต่ใช่ว่านักแสดงอื่นๆ จะน้อยหน้านะ ส่วนตัวผมชอบ Nick Robinson อาจจะเคยเห็นผ่านตาในเรื่อง Jurassic World ในบทสองเด็กแสบในเรื่อง ส่วนในเรื่องนี้รับบทเป็น Ben Parish หนุ่มสุดฮอต ร.ร. เดียวกับนางเอกที่รอดชีวิตจากการกวาดล้างมนุษย์และหวังจะแก้แค้นแทนครอบครัว ผมว่าทักษะการแสดงของ Nick ดูมีเสน่ห์มาก เล่นประกบกับ Chloë น่าจะปังขึ้น คาดว่าในอนาคตดังแน่นอน และก็ยังมี Alex Roe รับบทเป็น Evan Walker หนุ่มปริศนาที่คอยช่วยเหลือนางเอก สาวๆ หลายๆ คนคงได้เห็นหนุ่มคนนี้โชว์หุ่นในตัวอย่างภาพยนตร์ผ่านตากันไปบ้างแล้ว อยากเห็นเต็มๆ ตาคงต้องไปชมกันในโรง เตรียมกระดาษซับเลือดกันด้วยนะ อิอิ และอีกคนสาวอีโมขอบตาดำสุดโหด ผมจำชื่อนางไม่ได้ บทนางเด่นกว่าตัวประกอบอื่นๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยจะเด่นมากนักมีได้โชว์สกิลอยู่ 2-3 ฉาก หวังว่าบทเธอคงมีมากขึ้นถ้าเรื่องนี้ถูกสร้างภาคต่อ ส่วนนักแสดงคนอื่นสำหรับผมยังเฉยๆ ครับ ไม่ค่อยเข้าตาสักเท่าไหร่ บางคนก็บทน้อยๆสักแบบว่า ไม่ต้องมีก็ได้นะ
ในส่วนของบทและการดำเนินเรื่อง เนื่องจากหนังสร้างจากนิยายไตรภาค อะไรหลายๆ อย่างก็เลยยังไม่เคลียร์ในภาคเดียว จบแบบดื้อๆ ดำเนินเรื่องค่อนข้างสโลว์ไลฟ์ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่นักสำหรับตัวผม ก็ดึงผมให้ดูได้ก็เพราะตัว Chloë (เหตุผลเดิมตลอด 555+) แต่กระแสเปิดตัวหนังไม่ค่อยดีนัก ในบรรดาหนังที่สร้างจากนวนิยาย เปิดตัวไม่ค่อยบูมเท่าเรื่องอื่นๆ คงต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าเราจะได้ชมภาคต่อของภาพยนตร์ชุดนี้รึป่าว
สรุปเลยละกันนะครับ สำหรับคะแนนรีวิวให้ 6/10 เกรดหนังให้ B- ยังพอไปได้สำหรับผม แอบหวังว่าจะได้ดูภาคต่ออยู่เหมือนกัน ใครที่ชื่นชอบหนังสร้างจะนิยาย แนวรักวัยรุ่น อารมณ์ Twilight ผมว่าดูเรื่องนี้แล้วไม่ผิดหวังนะ แต่ถ้าใครอยากจะมาดูแบบหนังฆ่าๆ บู้ๆ กันผมไม่แนะนำเท่าไหร่ ไม่งั้นคุณอาจจะผิดหวังกลับไปก็เป็นได้นะ ฮ่าๆ สามารถชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ทางด้านล่างนี้เลยนะครับ สำหรับเรื่องหน้าจะมารีวิวหนังเรื่องอะไรยังไงก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ ชอบก็กดติดตามบล็อกได้เลยครับผม
ขอขอบคุณตัวอย่างภาพยนต์ซับไทยจาก maewlaay
No comments:
Post a Comment