[Review] Allegiant ปฏิวัติสองโลก

[Review] Allegiant ปฏิวัติสองโลก

สวัสดีครัช! กลับมาอีกครั้งหลังที่ห่างหายไปนานก็ขอมารีวิวหนังที่ดองไว้(จิงๆ จัดตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงแล้วแหละ) แต่เนื่องจากช่วงนี้มะค่อยว่าเขียนรีวิว ขนาดเวลาไปดูหนังยังไม่มีถึงขนาดพลาดดู London Has Fallen ทั้งๆ ที่ตั้งใจไปดู เซ็งเยยๆ อะครับ วันนี้ก็จะมารีวิวภาพยนตร์เรื่อง Allgiant ปฏิวัติสองโลก ภาคต่อของ Insurgent ซึ่งภาคนี้ก็เป็นภาคที่สามแล้วของนิยายชุด Divergent เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาไปอ่านเรื่องย่อกันก่อนเลย

เรื่องย่อ Allegiant

Allegiant ภาคต่อของ Insurgent ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายสุดโด่งดัง The Divergent ที่ดำเนินเรื่องหลังจากที่ Tris (รับบทโดย Shailene Woodley) และ Four (รับบทโดย Theo James) รวมถึงคนอื่นๆ ได้โค่นล้มอำนาจของ Jeanine ลง (ในภาค Insurgent) ก็เกิดการปกครองใหม่โดย Evelyn ทุกอย่างดูเหมือนจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม Tris รวมถึงคนอื่นๆ จึงต้องการที่จะหลบหนีออกจากเมือง เพื่อที่จะไปเผชิญหน้ากับโลกภายนอก และต้องการที่จะหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด แต่หารู้ไม่สิ่งที่พวกเขาต้องเจอกลับโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม

รีวิวและวิจารณ์ Allegiant

บอกก่อนเลยว่าที่รีบดูเพราะ Shailene Woodley มากยิ่งทรงผมเธอในภาคนี้ ยอมใจเลย เอาใจไปเลยๆ ภาคนี้เหมือนปูเรื่องใหม่เลย เหมือนคนละฟิลกับสองภาคที่ทำออกมา อารมณ์คล้ายๆ เวลาดู The Hunger Game ที่สองภาคแรกจะเป็นการต่อสู้ในลานประลอง พอมาภาคสามก็จะเป็นเกี่ยวกับการปฏิวัติ ดราม่าๆ ไม่บู้เหมือนภาคก่อนๆ ซึ่งที่ผมจะบอกก็คือเรื่องนี้ก็คล้ายๆ กัน ภาคนี้จะเป็นการปูเนื้อเรื่องใหม่ ให้เราได้เห็นโลกที่กว้างกว่าเดิมในภาพยนตร์เรื่องนี้

ในภาคนี้จะได้เห็นตัวละครใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริม ไม่ว่าจะเป็นตัวดีหรือตัวร้าย ทำให้เรื่องน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครในเรื่องที่ดูโตขึ้นไม่ว่าจะเป็น Tris, Four, Christina (รับบทโดย Zoë Kravitz) ตัวละครที่เด่นขึ้นจนน่าประทับใจผมยกให้แก่ Caleb (รับบทโดย Ansel Elgort) เลย ส่วนตัวที่น่าหมั่นไส้ตั้งแต่ภาคแรกก็หนีไม่พ้น Peter (รับบทโดย Miles Teller) ในส่วนของกราฟฟิคขอบอกเลยอลังการงานสร้างมาก งานดีสุดๆ ยิ่งเมืองแบบสวยอลัง ตรงส่วนนี้ให้เต็มเลยครับ

ตัวหนังก็ยังมีข้อเสียอยู่เล็กน้อยเพราะว่ามันเป็นพาร์ทให้ของหนังนิยายทำให้เสียเวลาปูเรื่องนานมาก และดำเนินเรื่องได้แบบยืดเยื้อสุดๆ ดูแล้วแบบจะหลับ ไม่โอเคเท่าไหร่ เดาเรื่องค่อนข้างง่ายสุดๆ และบางซีนบทตัวละครบางตัวเห็นแล้วเพลียสุดๆ ส่วนใครที่หวังจะดูฉากต่อสู้ นี่แทบน้อยมากๆ น้อยจนแทบจะไม่มี ส่วนมากโฟร์จะบู้เยอะอยู่คนเดียว ตัวละครใหม่ยังไม่มีบทบาทในภาคนี้เท่าตัวเก่าๆ ด้วย ยังคงต้องรอลุ้นในภาคต่อไปว่าจะมีบทมากแค่ไหน ซึ่งภาคต่อไปเป็นภาคสุดท้ายของนิยายชุดนี้แล้ว The Divergent Series: Ascendant เรายังคงต้องอดใจรอไปอีกหนึ่งปี สำหรับคะแนนรีวิวผมให้ 7/10 เกรดหนังให้ B จริงๆ จะให้ 6 ด้วยซ้ำแต่ +1 เพราะ  Shailene Woodley เลยนะ อิอิ ส่วนตัวคิดว่าภาคก่อนๆ ดำเนินเรื่องดีกว่า สนุกกว่า แต่ภาคนี้ได้เพราะคาแรคเตอร์ของตัวละครโอเคขึ้น ภาพสวย และนางเอกสวย ฮ่าๆ  สามารถชมตัวอย่างภาพยนตร์ซับไทยได้ทางด้านล่างนี้เลยนะครับ ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ละกันน้า ไว้เจอกันใหม่เรื่องหน้าครัช!

 

ขอขอบคุณตัวอย่างภาพยนตร์ซับไทยจาก maewlaay

[Review] Gods of Egypt สงครามเทวดา

[Review] Gods of Egypt สงครามเทวดา

สวัสดีคราบ ต้องกราบขออภัยที่เขียนรีวิวเรื่องนี้ช้า เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ดันเข้าพร้อมกันกับ Zootopia และตัวผมเองก็เพิ่งมีเวลาไปดูด้วย ซึ่งภาพยนตร์ที่ผมจะมารีวิวในวันนี้ก็คือเรื่อง Gods of Egypt สงครามเทวดา ภาพยนตร์ผจญภัย-แอคชั่น เกี่ยวกับตำนานเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์ หรือเทพอิยิปต์โบราณ ใครที่ชื่นชอบหนังแนวตำนวนเทพเจ้าบอกเลยว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องย่อ Gods of Egypt

ว่าด้วยเรื่องสงครามการชิงบัลลังก์ของเทพสองพี่น้อง Set เทพเซต (รับบทโดย Gerard Butler) และเทพโอซิริส ซึ่งต้องการสืบทอดบัลลังก์แก่บุตรชายเพื่อที่จะให้เขาปกครองเหล่าบรรดามนุษย์ ซึ่งบุตรของเทพโอซิริสก็คือ Horus เทพฮอรัส (รับบทโดย Nikolaj Coster-Waldau) แต่ทว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้น เซตผู้เป็นอาหวังจะครอบครองบัลลังก์และขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง จึงได้ควักลูกตาที่เปรียบเสมือนพลังของฮอรัสและได้เนรเทศเขาออกไปนอกเมือง เหล่ามนุษย์ทั้งหลายจึงต้องตกเป็นทาสโดยการปกครองอันโหดร้ายของเทพเซต เป็นเหตุให้จอมโจรหนุ่ม ที่มีนามว่า Bek (รับบทโดย Brenton Thwaites) วางแผนจะขโมยดวงตาที่ถูกชิงไปกลับคืนให้แก่ฮอรัส เพื่อที่จะให้ฮอรัสกอบกู้บัลลังก์และช่วยแฟนสาวของตน นามว่า Zaya (รับบทโดย Courtney Eaton)  ให้รอดพ้นจากความตาย เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ ต้องติดตามกันต่อในโรงภาพยนต์นะคราบ

รีวิวและวิจารณ์ Gods of Egypt

มาถึงช่วงรีวิวก็ขอพูดถึงจุดเด่นกันก่อนเลย ที่ชอบที่สุดของเรื่องคงไม่พ้นกราฟฟิค พูดเลยว่าอลังการงานสร้างสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเมือง ปีศาจ และร่างเทพที่แปลงร่างแล้ว แบบว่าโครตเท่เลย เกราะทองนี่นึกว่าผมกำลังดูเซนต์เซย่าอยู่ยังไงยังงั้น ฮ่าๆๆๆ หนังมีข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องของคุณงามความดีให้เราได้คิดด้วยนะ มาพูดถึงฝั่งนักแสดงส่วนตัวชอบทั้งนิโครัสที่เล่นเป็นเทพฮอรัสและก็ณเดช เอ๊ย! ไม่ใช่ เบรนตัน ที่รับบทจอมโจมหนุ่มเบค เหมือนจะเป็นคู่ขาแต่ก็จิกกัดกันเองทั้งเรื่อง ฮ่าๆ และก็ เจอราร์ด บัตเลอร์ รับบทตัวร้ายว่ามันพีค แบบเลวชั่วสุดๆ ไร้ที่ติจริงๆ ผมคงได้เบื่อหน้าพี่แกไปอีกนาน เดวก็จะได้เจอพี่แกอีกใน London has fallen ฮ่าๆ เกือบลืมไฮไลท์สำหรับหนุ่มๆ รับรองไม่ผิดหวังกับญาญ่า เอ๊ย!(อีกละ) คอร์ทนีย์ อีตัน ที่รับบทเป็นซาย่าแฟนสาวของเบค ไม่ผิดหวังเรื่องอะไรอลงเลื่อนๆ ดูภาพในบล็อคนี้ดู พูดได้คำเดียว แม่จ้าวววว! อยากดูเต็มๆ ต้องไปดูในโรงนะจ๊ะ 

เห็นงี้ก็ใช่ว่าหนังจะไม่มีข้อสังเกตุนะจ๊ะ ขอพูดถึงบทและการดำเนินเรื่องบ้าง เท่าที่ดูผมรู้สึกว่าค่อนข้างธรรมดา เนื้อเรื่องแบบเบสิคโครตๆ เรียบๆ เนิ่บๆ ไปจนจบเรื่อง ไม่มีจุดพีคอะไรเท่าไหร่ และบทของตัวละคร เซ็งตรงที่ ถ้าใครได้ติดตามการโปรโมทของหนังจะเห็นว่าตัวละครของหนังยังมีเทพตัวอื่นๆ ที่โปรโมทออกมาเป็นโปสเตอร์หลักอย่าง เทพ Thoth เทพแห่งปัญญา (รับบทโดย Chadwick Boseman) และ Hathor เทพีแห่งความรัก (รับบทโดย Elodie Yung) รวมถึงเทพอีกหลายองค์ที่ปรากฎในเรื่องคือแบทบจะไม่มีบทเลยจ้า โผล่มาแค่คนละไม่กี่นาทีเท่านั้น แอบหวังจะได้เห็นหลายๆ ตัวโชว์เทพบู้กับเจอราร์ด บัตเลอร์ ซะหน่อย กับได้เห็นแค่คู่มวยเอกเท่านั้น

สรุปคะแนนรีวิวเรื่องนี้ผมให้ 8/10 เกรดหนังให้ B+ สำหรับใครที่ชื่นชอบหนังเกี่ยวกับเทพไม่ควรพลาด บู้ๆ มันส์ต้องเรื่องนี้เลย อยากเลยไปชมผลงงานโกอินเตอร์ของณเดชกับญาญ่าน้า ฮ่าๆๆๆ ครั้งหน้าจะมารีวิวภาพยนต์เรื่องอะไร แอบมีเกริ่นๆ ไปบ้างในบทความ ว่าเจอราร์ด บัตเลอร์ อีกแล้วเหรอ ฮ่าๆๆ ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะจ๊ะ ใครอยากชมตัวอย่างภาพยนตร์สามารถกดชมได้เลยทางด้านล่างนี้นะจ๊ะ

ขอขอบคุณตัวอย่างภาพยนตร์ซับไทยจาก maewlaay

[Review] Zootopia นครสัตว์มหาสนุก

[Review] Zootopia นครสัตว์มหาสนุก

สวัสดีคราบ วันนี้ผมก็จะมารีวิวภาพยนตร์อนิเมชั่นน่ารักๆ เกี่ยวกับสัตว์เรื่องแรกซึ่งปีนี้มีอนิเมชั่นที่สร้างเกี่ยวกับสัตว์ถึง 3 เรื่องด้วยกัน ซึ่งเรื่องที่ผมจะมารีวิวคือเรื่อง Zootopia นครสัตว์มหาสนุก ผลงานจากค่ายหนังใหญ่ Disney ที่สร้างอนิเมชั่นดีๆ ให้เราได้ชมหลายเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ เห็นภาพน่ารักๆ แบบนี้แล้วบอกเลยว่าไม่ธรรมดานะจ๊ะ เรื่องราวจะเป็นยังไงไปอ่านเรื่องย่อกันก่อนเลยจ้า

เรื่องย่อ Zootopia

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโลกไม่มีมนุษย์ เต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด ที่สามารถพูดได้ แต่งกายและมีการมีงานทำเหมือนมนุษย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึง Zootopia นครหลวงของสัตว์ทุกชนิด เมืองที่ไม่ปิดกันอิสระทางความคิด เมืองที่จะเป็นอะไรก็ได้ตามใจหากคุณตั้งใจ เมืองที่เหล่าสัตว์นักล่า และผู้ถูกล่าอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เจ้ากระต่ายน้อย Judy Hopps กระต่ายตำรวจตัวแรกของเมืองที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าสัตว์เล็กก็สามารถปกป้องผู้คนได้เหมือนกัน เธอตัดสินใจทำคดีหนึ่งเพื่อพิสูจน์ตัวเอง Judy ได้พบกับ Nick Wilde สุนักจิ้งจอก สัตว์ที่มีนิสัยชอบโกหกและไว้ใจไม่ได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงทำให้ทั้งคู่ต้องสืบคดีร่วมกัน เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อในโรงภาพยนตร์

รีวิวและวิจารณ์ Zootopia

เป็นอนิเมชั่นยอดเยี่ยมเรื่องแยกในปีนี้เลย Disney เปิดตัวได้ดีจริงๆ ภาพสวยงามไร้ที่ติ ความน่ารักของตัวละครผมบอกเลยว่าเอาใจคนดูไปเลยจ้า โดยเฉพาะใครที่ได้ดูคลิปโปรโมทแล้วละก็คงสะดุดตากับตัวสล๊อตสุดเชื่องช้า ช้าโครตๆ เจ้า Flash ที่ดันทำงานอยู่ในสำนักงานทะเบียน Judy และ Nick ต้องการให้เจ้าสล๊อตช่วยตามหาบางสิ่งให้ ฉากนี้ดูกี่ทีๆ ก็ขำ ยิ่งมาดูในโรงยิ่งขำเลย ใครๆ ที่หลงรักเจ้า Flash บอกเลยนอกจากฉากนั้นมีเซอร์ไพร์ในหนังให้ขำก๊ากอีกแน่นอน

บทหนังทำออกมาได้สนุกทั้งพาร์ทการสืบสวน ไขคดี ฉากดราม่าก็ทำออกมาได้ดี รวมถึงยังสะท้อนสังคมเรื่องของการแบ่งแยกชนชั้นของสัตว์นักล่าและผู้ถูกล่าอีกด้วย ส่วนเรื่องมุกตลกเสียดายที่แบบทางค่ายหนังปล่อยมุกออกไปในตัวอย่างภาพยนตร์เยอะไปหน่อย จึงทำให้ไม่ค่อยมีฉากตลกเยอะ จะเน้นไปในพาร์ทดำเนินเรื่องแทน ตัวละครที่ผมชอบเรื่องนี้ผมชอบทั้งตัว Nick และ Judy นะ 2 คู่หู มันน่ารักทั้งคู่อะ นอกจากตัวเอกแล้ว ส่วนตัวผมชอบ Finnick เจ้าสุนักจิ้งจอกน้อยที่มาพร้อมกับ Nick กับ Clawhauser เจ้าเสืออ้วนที่ทำงานต้อนรับอยู่ที่สถานีตำรวจ แต่เสียดายที่ตัวละครตัวและตัวอื่นๆ มีบทน้อยไปหน่อย 

สำหรับคะแนนวิจารณ์ของ Zootopia ผมให้ 9/10 ละกัน เกรดหนังให้ A- เป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องนึงที่ค่อนข้างชอบ เพระาความน่ารักของตัวละคร ส่วนตัวเป็นคนแพ้อะไรน่ารักๆ ฮ่าๆ แต่ก็ยังมีข้อติตามที่ได้กล่าวไป อนิเมชั่นเรื่องนี้นอกจากเด็กดูได้แล้วผู้ใหญ่ก็ดูได้ผมว่าผู้ใหญ่น่าจะชอบมากกว่าเด็กด้วยซ้ำ ถ้าใครที่ไม่อยากพลาดชมอนิเมชั่นดีๆ สักเรื่องในต้นปีนี้รีบไปดูเลยจ้า เรื่องนี้เข้าพร้อมกับ God of Egypt สงครามเทวดา อยากดูทั้งสองเรื่องเลย ผมตัดสินใจดูเรื่องนี้ก่อนแต่ก็จะไม่พลาดอีกเรื่องแน่นอน รอบหน้าจะมารีวิวภาพยนตร์เรื่อง God of Egypt สงครามเทวดา ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะจ๊ะ สามารถชมตัวอย่างภาพยนตร์ซับไทยได้ทางด้านล่างนี้เลยน้า

ขอขอบคุณตัวอย่างภาพยนตร์ซับไทยจาก Walt Disney Thailand

[Review] Zoolander 2 เว่อร์วังอลังการ

[Review] Zoolander 2 เว่อร์วังอลังการ

การกลับมาของภาพยนตร์ Comedy เกี่ยวกับวงการแฟชั่น ที่สุดจะเว่อร์และขี้โม้เอามากๆ Zoolander 2 เว่อร์วังอลังการ ภาคนี้ห่างจากภาคแรกถึง 15 ปีเลยทีเดียว โดยในภาคนี้เหล่านักแสดงนำก็กลับมารับบทเดิมเสริมตัวละครใหม่ที่จะทำให้คุณฮายิ่งกว่าภาคแรก แนะนำว่าควรดูภาคแรกก่อนนะครับ เพราะภาคนี้หนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว ถ้าคนไม่เคยดูแล้วมาดูละก็ได้อุทานออกมาแน่ว่า "Holy Shit หนังอะไรฟร่ะเนี่ย!!" ก่อนที่จะมาอ่านรีวิว เดวไปอ่านเรื่องย่อกันก่อนเลยดีกว่า 

เรื่องย่อ Zoolander 2

หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกที่ Derek Zoolander (รับบทโดย Ben Stiller) สุดยอดนายแบบชื่อดัง เจ้าของท่าโพสต์สุดเท่ "แม็กนั่ม" และคู่ซี้ Hansel (รับบทโดย Owen Wilson) นายแบบหน้าใหม่มาแรง ทั้งคู่ที่ได้หยุดแผนการอันชั่วร้ายของ Mugatu (รับบทโดย Will Ferrell) ที่หวังจะสังหารผู้นำประเทศมาเลเซียไว้ได้ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ Derek Zoolander ได้อำลาวงการนายแบบและหายตัวไปอย่างลับๆ โดยที่ไม่มีใครเคยเจอเขาอีก หลายปีต่อมาในระหว่างที่เขาหายตัวไป ก็ได้มีกลุ่มคนลึกลับปรากฎตัวขึ้นและได้ไล่ล่าสังหารเหล่า Superstar ชื่อดังระดับโลก ก่อนจะสิ้นใจเหล่า Superstar ทุกรายได้โพสต์ท่าลงใน IG เป็นหน้าเดียวกัน ซึ่งคล้ายกับท่าโพสต์สุดเท่ของ Derek Zoolander ที่หายตัวไป จึงทำให้ตำรวจแฟชั่นต้องการตัว Derek เพื่อที่จะไขปริศนาในครั้งนี้

รีวิวและวิจารณ์ Zoolander 2

หนังเรื่องนี้เว่อร์ซะยิ่งกว่าเว่อร์ทั้งบท เนื้อเรื่อง แฟชั่น และดารารับเชิญ ที่แทบจะบอกได้เลยว่า เฮ้ยยย แบบนี้ก็ได้เหรอ ผมนับถือคนเขียนบทเลย แบบว่าสุดๆ ผมบอกได้เลย เรื่องนี้ไม่มีสาระ ถ้าคนที่เคยดูภาคแรกแล้วจะรู้คือแบบอะไรๆ มันก็โยงไปได้หมด ความกวนตีน กวนประสาท ความโง่ของตัวละครนี่แหละจะทำให้คุณขำตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว ภาคนี้เล่นเอาเหล่า Superstar คนดังอย่าง Justin Bieber, Benedict Cumberbatch, Katy Perry และคนอื่นๆ มาทำซะเสียเลย จะฮาแค่ไหนคงต้องไปดูกันเองนะจ๊ะ

ด้านนักแสดง Ben Stiller ยังคงเล่นได้ฮา เกรียน ล้นสุดๆ ส่วนบทของ Owen Wilson ผมว่ามันเยอะไปจนเลอะเทอะยังไงมะรู้ บางอย่างก็ดูเสื่อมแบบสุดๆ แบบที่ว่าคิดได้ไงเนี่ย Will Ferrell ภาคนี้ดูพีคมาก ลูกบ้านี่ไม่แพ้ตัวเอกเลย ทั้งคอสตูมพี่แก ความร้ายของพี่แกนี่เหลือทน ส่วนตัวผมชอบ Benedict มากรับเชิญไม่กี่นาที แบบวินสุดๆ ชนิดที่แบบไม่รักษาภาพพจน์เลยแกเอ๊ย สาวกพี่เบนคงช็อคไปตามๆ กันจากการแต่งตัวเฮียแกวิน พูดเลย ส่วนใครเป็นแฟนคลับ Bieber ก็ตามที่เห็นในตัวอย่างละจ้า มารับเชิญบทไม่เยอะแต่เปิดเรื่องมาก็ขำแล้ว ฮ่าๆ ตัวประกอบอื่นๆ ก็กวนตีนดีครับ

โดยรวมผมให้ 6/10 เกรดหนังให้ B- ละกัน มุกโดยรวมก็ฮาบ้าง แต่ตัวหนังมันเหมือนพยายามใส่เยอะไปจนล้น บางมุกผมไม่ค่อยเกทเท่าไหร่ด้วย แต่ผมว่ามันสนุกกว่าภาคแรกนะเนื้อเรื่องมันดูโอเคกว่า ถ้าอยากดูหนังตลกๆ คลายเครียดแนะนำเลยให้ดู เพราะมันไม่มีสาระอะไรเลย ดูเอาฮาเท่านั้นแหละจ้า สามารถดูตัวอย่างได้ทางด้านล่างนี้เลยจ้า ครั้งจะหน้ามารีวิวหนังเรื่องอะไร อย่าลืมติดตามกันด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณตัวอย่างภาพยนตร์ซับไทยจาก Major Trailers